สวัสดีค่ะเพื่อนๆที่น่ารักทุกๆท่าน วันนี้ขับรถกลับมาจากสวน เกือบเลยเวลามื้อเที่ยงแล้วค่ะ รีบเข้าครัวทำทันทีหรือตู้เย็นเช็ค วัตถุดิบในตู้เย็นพอมีอะไรมาทำเมนูอาหารมื้อเที่ยงได้บ้างสรุปวันนี้เกลี้ยงค่ะวัตถุดิบหมดมีแต่ไข่ กับฟักทองที่สามีปลูกหลังบ้าน เดือนนี้อ้อมยังไม่ได้ออกไปซื้อของเลยค่ะอาศัยร้านค้าใกล้บ้านหาช่วงเวลายากมากตั้งแต่ฝนไม่ตกเพราะต้องรดน้ำเช้าเย็นใช้เวลาวันละ 2-3 ชั่วโมงไม่เป็นไรค่ะไม่มีวัตถุดิบก็ต้องพึ่งร้านค้าใกล้บ้านอีกแล้วขับรถไปร้านค้ากับข้าววันนี้ที่ร้านค้าเบาบางค่ะ แน่นอนช่วงนี้หมูแพงอ้อมไม่ซื้อหมูอย่างแน่นอนเลือกกินอย่างอื่น 😅 ที่ร้านค้ามีปลาย่างและปลาเค็มไข่เค็มไข่เยี่ยวม้า
และหนางหมู หนางวัว
มีแต่กับข้าวประเภทถนอมอาหาร
อ้อมลังเลยืนเลือกอยู่พักใหญ่ค่ะไม่รู้จะทำเมนูอะไรดี หรือจะกลับไปตำน้ำพริก แต่ก็ทำน้ำพริกทานแล้วเมื่อวานถ้าวันนี้ทำน้ำพริกเอกสมาชิกในบ้านคงจะต้องเบื่อ ลังเลไปลังเลมา ตัดสินใจซื้อหนังหมูกลับมา 1 ถุงค่ะ น้ำหนักครึ่งกิโล ราคา 60 บาท ที่ร้านค้าขายมะพร้าวด้วยค่ะ ทางร้านบริการขูดให้แล้วช่างขายเป็นกิโลกรัม ตกลูกละ 30 บาท อ้อมเคยซื้อ
แต่ครั้งนี้ไม่ซื้อค่ะเพราะที่บ้านมีมะพร้าว ก่อนกลับบ้าน ซื้อขนมกินเล่นให้เด็ก เมื่อกลับมาถึงบ้าน จัดการหาวัตถุดิบของเมนูนี้ต้มหนางหมูกับหยวกกล้วย ดีกว่าค่ะจะได้ใช้ตัวช่วยคือหยวกกล้วยทำให้มีเนื้อเยอะๆในเมนูนี้😁

วานคุณสามีเข้าป่า ไปตัดหยวกกล้วยเพื่อจะมาทำเมนูนี้
ส่วนป่าที่ว่านั้นก็คือ หน้าบ้านค่ะอีกฝั่งนึงของถนนค่ะ เคล็ดลับ การเลือกหยวกกล้วยป่า
วิธีเลือกต้นกล้วยต้องเป็นต้นกล้วยป่าที่ขึ้นตามธรรมชาติ (ทางใต้เรียกว่าต้นกล้วยเถื่อน) การเลือกตัดต้นกล้วยนั้นให้สังเกตุใบกลางของกล้วยจะมีลักษณะเป็นกรวยยังไม่บาน เวลาเอามาแกงจะได้เหยือกกล้วยที่ออนอร่อยพอดีค่ะ
"ยอดกลางเกิดบาน แล้วเรามาทำเมนูก็ไม่อร่อยค่ะเพราะต้นกล้วยแก่เกินไป"

เมื่อตัดต้นกล้วยมาแล้วลอกเอากลับออกให้เหลือเฉพาะแกน อ่อนด้านในหยวกกล้วย. หยวกกล้วยที่อยู่ส่วนแกนในของลำต้นกล้วยมีสีขาวนวล กล้วยนอกจากกล้วยป่าแล้วยังใช้กล้วยน้ำว้าหรือกล้วยตานี ก็ได้นะคะ เลือกต้นอ่อนตามที่อ้อมบอก
จากนั้นก็นำมาหั่นให้ ได้ขนาดพอเหมาะ ล้างน้ำ และแช่เตรียมไว้โดยบีบมะนาวลงไป 1 ลูกช่วยลดรสฝาดและป้องกันหยวกดำได้ด้วยค่ะ
วันนี้จึงอยากชวนเพื่อนๆมาปรุงแกงหยวกกล้วยด้วยวิธีง่ายๆ กันค่ะ

หยวกกล้วยจะมีใยบางๆที่ยึดยาวพันกัน วิธีเอาใยหยวกกล้วยออกให้ใช้ตะเกียบ คนวนเพื่อเกี่ยวเส้นใยออก มา หยวกกล้วยจะได้เป็นชิ้นไม่ติดกันค่ะ

วัตถุดิบและส่วนผสมทั้งหมด

•หนางหมู 500 กรัม
•หยวกกล้วย 500 กรัม
•น้ำกะทิ 3 ถ้วยตวง
•ขมิ้น 3 หัว
•ข่าอ่อน 2 แว่น
•ตะไคร้ 2 ต้น
•ใบมะกรูด 4-5 ใบ
•พริกสด ตามชอบ
•กระเทียม 3-4 กลีบ
•หอมแดง 3 หัว
•น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
•น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
• มะนาว 1 ลูก

ผงคนอร์ก้อน 1 ก้อนเกลือป่น 1 ช้อนชา ผงชูรส 1/ 2 ช้อนชา

นำหนางหมูล้างน้ำสะอาดให้เรียบร้อยจากนั้นนำใส่ตะแกรงสะเด็ดน้ำ
ตะไคร้ข่าใบมะกรูด ล้างน้ำให้สะอาดจากนั้นก็จัดเตรียมหั่นตามภาพเลยค่ะ

วิธีทำ

ตั้งกะทิ บนเตาจากนั้นก็เปิดไฟระหว่างที่รอกะทิเดือดก็ใส่ตะไคร้ข่าขมิ้น
เมื่อน้ำเดือดจะได้กลิ่นหอม ของเครื่องสมุนไพรที่ใส่ลงไป
พอเดือดดีแล้วก็ใส่หนางหมูลงไปค่ะ

หอม หอม หอม.
เขี้ยวจนกว่าหนางหมูสุกและนิ่มเปื่อย พอเดือดอีกครั้งใส่ หยวกกล้วยลงไปค่ะรอจนกว่าเหยือกกล้วยเปลือยสุกจากนั้นก็ปรุงรสชาติ ด้วย น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา คนอร์ก้อน เกลือ และมะนาว ให้รสชาติออกรสเปรี้ยว นำหวานตามนะค่ะ

เสร็จเรียบร้อย ปิดเตาค่ะตักใส่ถ้วย ตกแต่งหน้าด้วย พริกขี้หนูใบมะกรูด
พร้อมรับประทานค่ะ มื้อเที่ยงของวันนี้ ทานกันตอน บ่ายแล้วค่ะกว่าจะเสร็จ😅

@sunisa ❤