แกงไทยโบราณแกงเทโพ

7hti6i.jpg

สวัสดีค่ะเพื่อนๆที่น่ารักทุกท่านวันนี้เจอกันต้อนดึกๆอีกแล้วนั้งหารูปอาหาร หาไม่เจอ ไม่รู้ว่าไปไว้ไดร์ไหน ดึกก็ดึกตาก็จะติดแล้ว วันนี้ก็มีลูกค้าอยู่บ้างค่ะ
แต่ก็ว่าไปยุ้งทั้งวันแปบๆเอาค่ำแล้ว ...ในที่สุดก็เจอรูปอาหาร
โพสนี้เรามาชมเมนู อาหารไทยที่ชื่อว่าแกงเทโพ
แกงเทโพสมัยเด็กๆ คุณแม่ชอบทำเมนูนี้ให้ทานบ่อยมากค่ะ เพื่อนๆก็คงจะรู้กันดีว่าใช้ วัตถุดิบ ปลาเค็มและใช้ผักบุ้งแก้ว แต่ตอนสมัยเด็กๆที่คุณแม่ฉันทำให้การคงจะไม่มีผักบุ้งแก้วหรอกค่ะมีแต่ผักบุ้งปลายนางปลายคลองที่ไปหามาทำเมนูนี้
เทียบสมัยก่อนกับสมัยนี้คง จะเทียบกันไม่ได้เพราะวัตถุดิบหาได้ง่ายแค่ไปตลาดก็ได้วัตถุดิบมาครบแล้วสมัยก่อนตลาดนัดก็ไม่มีแถมตลาดก็อยู่ไกล อยาก
สมัยนี้อะไรๆก็สะดวกแค่คิดแล้วลงมือทำทุกอย่างก็จะสมบูรณ์

..............
เมื่อคืนเขียนไว้ได้เพียงเริ่มต้นเท่านั้นไฟดับฝนตกไม่มีจบ
ไฟมาใกล้จะสว่างแล้ว ตื่นเช้ามาก็ต้องเตรียมของเพื่อจะ ต้อนรับลูกค้า กว่าจะได้รู้เขียน รอว่างจากลูกค้า ก็ตอนเย็นแล้ว รอแปบไปทำอาหารให้คุณลูกค้าก่อน
เสร็จถ้ามีเวลาว่างก็เเว็บมาเขียน
........
วันนี้ก็มาเริ่มเขียน เมนูอาหารกันต่อ เป็นเมนูแกงเทโพค่ะโพสนี้กว่าจะเสร็จน่าจะยาว

gfn3w0.jpg

วัตถุดิบ

•สะโพกหมูหรือหมูเนื้อแดง 250 กรัม ตามชอบ

•ปลามะยงเค็ม 250 กรัม

•เครื่องแกงเผ็ด 1 ช้อนโต๊ะ

• กะปิกุ้ง 11/2 ช้อนชา

•ผักบุ้งแก้ว หรือผักบุ้งไทย 1 กรัม

•กะทิ 250 กรัม

•ใบมะกรูด 3-4 ใบ

•น้ำมะขาม 4 ช้อนโต๊ะ

•น้ำตาลมะพร้าว 11/2 ช้อนชา

•ส้ม

qtyvv8.jpg

yojbeu.jpg

มาเริ่มลงมือทำกันเลยค่ะเริ่มจะหันปลามะยงเค็ม เป็นชิ้นชิ้นพอคำค่ะจากนั้นก็นำไป แช่น้ำ แช่น้ำ ไว้สักพักจากนั้นก็ล้าง 1-2 น้ำใส่ตะแกรงพักไว้
จากนั้นก็ทำวัตถุดิบตัวต่อไปค่ะคือผักบุ้งแก้วหรือผักบุ้งไทยนั่นเองนำมาใช้มือนิ้วเด็ดเพราะจะได้รู้ความแก่หรืออ่อนของผักบุ้งไทยหรือผักบุ้งแก้วนั่นเองค่ะเราจะได้ของที่ดีกว่าหั่นกับมีดแข็งๆทิ้งไป เอาแต่อ่อนๆค่ะ
ส่วนเนื้อสัตว์ นำไปล้างน้ำให้สะอาด แล้วก็หั่นเป็นชิ้นบางๆค่ะ

6gh997.jpg

87sj3c.jpg

วิธีทำ

sh3gr7.jpg

6r2160.jpg

1 นำหัวกะทิ ตั้งบนเตาไฟค่ะ ใช้ไฟปานกลางก็พอนะคะไม่ต้องใช้ไฟแรงจนเกินไปเพราะเดี๋ยวหัวกะทิเดือดแล้วจะไม่เปียกปอน

h2fqh8.jpg

2 เมื่อได้หัวกะทิที่แตกมันเป็นที่เรียบร้อยแล้วจากนั้นเราก็ใส่ปลามะยงเค็มลงไปค่ะ ขั้นตอนนี้ใช้ไฟอ่อนนะคะ
รอปลามะยงเริ่มสุก แล้วค่อยใช้ทัพพีค่อยๆคนให้เข้ากันกับน้ำแกงค่ะ ก็ใช่เรารีบคนเดียวแกงจะคาวปลาเสียก่อน

kkyg08.jpg

3 ใส่เนื้อหมูลงไปค่ะ จากนั้นก็เติมหางกะทิ หรือน้ำก็ได้ค่ะอัตราส่วนใส่ 1 ต่อ 1 นะคะ และหัวกะทิที่เหลือลงไปได้เลยค่ะ พร้อมกับใส่ส้มเจื้องลงไปด้วย
เคี่ยวอีกสักพักเพื่อให้หมูนิ่ม

jjs9fv.jpg

huyndi.jpg

rmlgy2.jpg

4 ใส่ผักบุ้งไทยหรือผักบุ้งแก้วลงไปค่ะใช้ทัพพีกดผักบุ้งแก้วหรือผักบุ้งไทยให้จมกับน้ำแกงนะคะเพราะถ้าลอยผักบุ้งอาจจะดำ

e5ihxo.jpg

5 จากนั้นก็ปรุงรสชาติด้วย น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขาม เกลือ เคี่ยวน้ำแกงให้เข้ากันจากนั้นชิมรสชาติตามชอบค่ะแกงเทโพจะเปรี้ยวนำหวานตามความเข้มข้นของน้ำแกงอร่อยกับกะทิที่หอมหวาน

7hti6i.jpg

เสร็จแล้วค่ะ ผักบุ้งนิ่มแล้วปิดตา ตักใส่จานทานกับข้าวสวยร้อนๆ พร้อมเสิร์ฟ

วันนี้ก็ขอจบไว้เพียงแค่นี้ก่อนค่ะ
ขอบคุณสำหรับการสนับสนุน
สวัสดีค่ะ