ทุกอย่างนั้นมันไม่เที่ยงอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
สวัสดีค่ะเพื่อนๆสมาชิกทุกท่านวันนี้มาเล่าเหตุเมื่อวานที่ผ่านมาค่ะ
ทุกอย่างล้วนอนิจจังคิดอะไรไว้บางครั้งใช่จะได้ดังใจเพราะความเป็นอนิจจังเกิดขึ้นได้ตลอดอยู่กับปัจจุบันดีที่สุด
เมื่อวานก็ไปร่วมกิจกรรมกับ ลูกลูกที่โรงเรียน เป็นกิจกรรมเดินพาเหรด ของอำเภอเกาะพะงัน งานกีฬาสี ความรู้สึก ของตัวฉันเองคืองานกีฬาสี สนุกดีมากค่ะเราก็คุ้นเคยมาตั้งแต่สมัยเรียน ได้เป็นทั้งนักกีฬาได้เป็นทั้งกองเชียร์ สนุกดีค่ะ มาเห็นเด็กๆในครั้งนี้ ก็นึกภาพออกและได้สัมผัสสนุกสนาน เบิกบานใจกับสีสันของ การแต่งตัวแต่ละหมู่บ้านที่มาแข่งกันประชันกัน คนทั้งอำเภอไปรวมกันที่โรงเรียน ก ศ เป็นโรงเรียนมัธยมใน เกาะพะงัน
ฉัน ตื่นตั้งแต่หัวรุ่งตี 3 :00 ก็ต้องไปเข้าแถวรวมกลองเดินพาเหรดเวลา7:00 ในตอนเช้า
ทุกอย่างก็ลุล่วงไปได้ดีค่ะไม่เกิดปัญหาอะไร เมื่อเสร็จเรียบร้อยเราก็ กลับบ้าน แม่กลับบ้านก็ต่างคนต่างแยกย้ายอาบน้ำแต่งตัวพักผ่อน และทำอาหารทานกันที่บ้าน เมื่อเสร็จภารกิจการทานอาหาร ก็มีเรื่องราว ที่จะต้องเคลียร์งานในบ้าน คนก็ช่วยกันคนละไม้คนละมือสามีทำความสะอาดข้างบ้านดายหญ้าถากหญ้า อากาศค่อนข้างที่จะร้อนพอสมควร ซึ่งฉันก็สัมผัสได้กับอากาศที่ร้อน เมื่อเช้าตอนเดินพาเหรด อากาศก็ร้อน พอสมควร ยิ่งตอนบ่ายๆยิ่งร้อนหนักเข้าไปอีก
ฉันก็เลยเดินไปบอกสามีว่าให้ หยุดการทำความสะอาดข้างบ้านก่อนดีกว่าเพราะอากาศร้อน แต่สามีฉันก็เป็นคนขยันมากๆไม่หยุด เขากลับตอบว่าไม่เป็นไรถือว่าได้ออกกำลังกาย
ชอบ ว่าด้านหลังของเธอเป็นจุดๆไปหมดแล้วมันแดงๆแบบบอกไม่ถูก เธอเดินไปดูกระจกมั้ยแต่สามีของฉันก็ ไม่ทำตามที่ฉันบอกก็ทำความสะอาดได้ยาก ดูแบบนั้นจนทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยตกเย็น แดดเริ่มหายจากท้องฟ้าไม่มีสาดส่องลงมาอากาศเริ่มเย็นสบาย สามีฉัน ก็เข้ามานั่งลูกๆ ก็นำน้ำเย็นๆมาให้ป๊าเขาทาน ส่วนฉันก็ทำความสะอาดในบ้านล้างและถู ที่โต๊ะรับแขก ก็ได้ยินเสียงสามีบ่นๆให้ได้ยินว่ารู้สึกปวดหัว ฉันก็ว่าฉันบอกแล้วว่าอากาศมันร้อนไม่เชื่อ กันว่าง ก็เริ่มปวดหัว ฉันก็ว่าไปอาบน้ำพักผ่อนก่อนฉันเข้าไปในห้องนอนเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำพร้อมกับจัดเสื้อผ้าบีบยาสีฟันจากนั้นก็เดินไปเรียกสามีมาอาบน้ำ เขาก็ทำตามที่ฉันบอก ฉันว่าให้เขานอนพักก่อน เขาอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแต่เขาก็ไม่นอนพักเขาบอกว่าเขานอนไม่ได้จากนั้นก็ เห็นเขาออกไปเดินจงกรมที่ในร้านอาหาร ฉันก็เห็นเขาปวดหัว ไม่อยากจะทักท้วงอะไรปล่อยเขาอยู่แบบนั้นคนเดียวเดินเงียบๆ ผ่านไปสักระยะฉันก็อาบน้ำ พักผ่อนดูสามีห่างๆเผื่อเขาจะเป็นอะไร
เขาบอกว่าหายใจไม่ค่อยจะออก ฉันก็รีบ ไปหายาร่ม ผสมกับน้ำอุ่นให้เขาทาน เมื่อทานเสร็จได้สักระยะเขาก็เรอหรือเอยออกมา
ฉันก็คะยั้นคะยอให้เขาไปพักผ่อน เขาก็ทำตามที่ฉันบอกเข้าไปพักผ่อนในห้อง ตอนนั้นเวลาก็ 19:00 นเห็นจะได้ เขาก็บอกเขานอนไม่ได้อีกหายใจไม่ออก ออกไปเดินจงกลมอีกครั้ง ฉันก็ไม่อยากจะกวนใจคอยดูห่างๆ ทางลงประตู แต่ดูท่าทางไม่ค่อยจะดีเลยชวนไปหาหมอ สามีก็ไม่ยอมไป ฉันหายาให้เขาทาน เป็นยาแก้ปวด เขาก็ทาน แต่อาการปวดหัวก็ยังคงมีอยู่ หน้าก็ซีด ฉันเลยเก็บเสื้อผ้าเก็บกระเป๋า ภาษามีขึ้นรถกะว่าจะไปหาหมอ เป็นสามีก็บอกอาการดีขึ้นไม่ไปดีกว่าฉันเลยขับรถเลยไปนอนที่บ้านในตลาด สรุปพอไปถึงบ้านก็เปิดห้องให้สามีนอน พร้อมกับลูกสาวคนเล็ก
ตื่นเช้ามาอาการก็ดีขึ้น อาการปวดหัวก็หายไป เมื่อวานรวมถึงเมื่อคืนด้วยฉันภาวะพะวง สติแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ด้วยความกังวลและความกลัว แต่ตื่นเช้ามาทุกอย่างโอเค ฉันรู้สึกโล่ง เช้านี้อากาศดีมากลมพัด ค่ะ กลิ่นไอทะเลผ่านมาถึงบ้านที่ฉันพัก ฉันเจ็บแจ้งดินสอและสมุดให้ลูกสาวคนเล็กคือชอบวาดรูป ฉันให้ซื้อมานั่งวาดรูปอยู่หน้าระเบียงบ้าน จากนั้นฉันก็จัดการเสื้อผ้าให้สามีอาบน้ำเพื่อจะออกไปซื้อของ เข้าร้าน ทำภารกิจส่วนตัวกันต่อ
.................................
ทุกอย่างเกิดที่จิต และดับที่จิต
ปฏิจจสมุปบาท
อิทัปปัจจยตา หรือ ปัจจยาการ เป็นหลักธรรมที่อธิบายถึงการเกิดขึ้นพร้อมแห่งธรรมทั้งหลายเพราะอาศัยกัน, การที่สิ่งทั้งหลายอาศัยกันจึงเกิดมีขึ้น เช่น ทุกข์เกิดขึ้นเพราะมีปัจจัย 12 เรื่องเกิดขึ้นสืบ ๆ เนื่องกันมาตามลำดับดังนี้ คือ
เพราะ อวิชชาเป็นปัจจัย สังขารจึงมี
เพราะ สังขารเป็นปัจจัย วิญญาณจึงมี
เพราะ วิญญาณเป็นปัจจัย นามรูปจึงมี
เพราะ นามรูปเป็นปัจจัย สฬายตนะจึงมี
เพราะ สฬายตนะเป็นปัจจัย ผัสสะจึงมี
เพราะ ผัสสะเป็นปัจจัย เวทนาจึงมี
เพราะ เวทนาเป็นปัจจัย ตัณหาจึงมี
เพราะ ตัณหาเป็นปัจจัย อุปทานจึงมี
เพราะ อุปาทานเป็นปัจจัย ภพจึงมี
เพราะ ภพเป็นปัจจัย ชาติจึงมี
เพราะ ชาติเป็นปัจจัย ชรามรณะจึงมี
ความโศก ความคร่ำครวญ ทุกข์ โทมนัส และความคับแค้นใจ ก็มีพร้อม ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งปวงนี้ จึงมี
สวัสดีค่ะ